วัดป่าภูก้อน ที่ต้งอยู่ในจังหวัดอุดรธานี อยู่ในเขตรอยต่อจาก 3 จังหวัด ไม่ว่าจะเป็น หนองคาย เลย อุดรธานี ความเป็นมาของ วัดป่าภูก้อน ประวัติ ให้ท่านได้รู้จัก ที่มาที่ไปของการตั้งวัด ที่ไปอยู่ใกล้กับเขตป่าสงวน เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมที่สงบ วันนี้ huaysod ของเราพาเพื่อนๆมารู้จักกับวัดแห่งนี้ไปพร้อมกันนะคะ
วัดป่าภูก้อน ประวัติความเป็นมา
วัดป่าภูก้อน ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูง และป่าน้ำโสม ที่บ้านนาคำ ในตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี เป็นเขตของรอยต่อ 3 แผ่นดิน รวมทั้ง 3 จังหวัดเข้าด้วยกัน นั่นคือ อุดรธานี หนองคาย และเลย ซึ่งเกิดขึ้นจากการดำริของพุทธบริษัทสี่ ผู้ที่ตระหนักถึงคุณประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ และป่าต้นน้ำลำธาร ซึ่งกำลังถูกทำลายอยู่ จากฝีมือมนุษย์
วัดป่าภูก้อน ประวัติ และผู้ก่อตั้งวัด
เริ่มต้นขึ้นในปี พ.ศ. 2527 หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ได้ปรากฏในทิพยนิมิต สั่งให้ไปธูดงค์ทางภาคอีสานเป็นเวลา 10 วัน คุณปิยวรรณ และคุณโอฬาร พร้อมทั้งคณะได้เดินทางมาธุดงค์ในจังหวัดสกลนคร และอุดรธานี จึงเกิดความเลื่อมใสในปฏิปทาของพระป่า จึงช่วยเหลือท่านพระอาจารย์อินทร์ถวาย สันตุสสโก ที่สำนักสงฆ์บ้านนาคำน้อย หลังจากนั้นก็ปลูกป่าทดแทนฟื้นฟูสภาพป่าที่เสื่อโทรมมากกว่า 750 ไร่ ตามระเบียบของกรมป่าไม้ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติธรรม และการอยู่อาศัยของพระสงฆ์ ต่อมาพระอาจารย์อินทร์ถวายกาไปดูป่าก้อนที่กำลังถูกสัมปทานตัดไม้ คณะศรัทธาจึงตัดสินใจสร้างวัด โดยกราบอาราธนาพระอาจารย์ชาลี ถิรธัมโมเป็นประธาน และขวัญกำลังใจในการก่อสร้าง ทำเรื่องขอใช้ที่ดินในเขตป่าสงวนนายูง น้ำโสม ใช้สร้างวัดนเนื้อที่ 15 ไร่จากกรมป่าไม้ ต่อมาได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกรมการศาสนา และได้รับอนุญาตให้สร้างวัดในวันที่ 3 กรกฏาคม2530 มีประกาศจากกระทรวงศึกษาธิการเป็น วัดป่าภูก้อน ขึ้นในพระพุทธศาสนา ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2530
คณะศรัทธาที่พยายามรักษาบริเวณวัดให้คงสภาพป่าอย่างสมบูรณ์ จึงได้มีการพยายามอย่างหนักที่ขออนุญาต ใช้พื้นที่ป่าสงวนที่อยู่โดยรอบวัด ด้วยความเมตตากรุณาของผู้ใหญ่ผู้มีพระคุณในกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ และกระทรวงมหาดไทย ได้แก่ ปลัดเถลิง ธำรงนาวาสวัสดิ์ ปลัดจุลนภ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อธิบดี จำนงค์ ปลัดอนันต์ อนันตกูลเห็นคุณค่าของป่า และความตั้งใจจริงของคณะศรัทธาที่จะรักษาป่า จนในวันที่ 22 มิถุนายน 2531 ได้รับหนังสืออนุญาตให้สามารถเข้าทำประโยชน์ หรืออาศัยในดขตป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อทำการัดตั้งพุทธอุทยาน ที่มีเนื้อที่ถึง 1,000 ไร่ ถูกขนานนามว่า พุทธอุทยานมหารุกขปาริชาติภูก้อน หลังจากนั้นได้รับความสนับสนุนจากอธิบดีกรมป่าไม้ อธิบดีกรมชลประทาน รวมถึงผู้ใหญ่ในกรมตำรวจ กองทัพอากาศ กองทัพบก การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค องค์การโทรศัพท์ และออีกหลาย ๆ ท่าน
วัดป่าภูก้อนได้พระราชทานวิสุงคามสีมา ในวันที่ 7 มิถุนายน 2532 ได้พร้อมใจกันจัดงานฝังลูกนิมิต โดยได้รับเกียรติจากปลัดกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ในขณะนั้น ท่านจุลนภ สนิทวงศ์ ณ อยุธยาเป็นประธานในพิธีตัดลูกนิมิต และผูกพัทธสีมาณ วัดป่าภูก้อน ในวันที่ 13 – 14 มกราคม 2533 และได้จัดตั้งมูลนิธิ ปิยธรรมมูลนิธิ เพื่อเกื้อกูลพระภิกษุสามเณรในวัดและงานสาธาณประโยชน์ในท้องถื่น
ปัจจุบันวัดนี้มีศาลาอุโบสถ 2 ชั้น 1 หลัง เป็นที่ประกอบพิธีสงฆ์ และเป็นที่ฉันชั้นล่าง มีกุฏิพระ 45 หลัง เรือนครัว 1 หลัง เรือนพักฆราวาส 6 หลัง ถังเก็บน้ำ 20 ถัง และห้องน้ำอีกเป็นจำนวนมาก โดยใช้ระบบประปาภูเขา จากการใช้ฝายเก็บน้ำดิน ที่เป็นแหล่งต้นน้ำซับ และน้ำตกในวัด ต่อมากรมชลประทานได้บูรณะถวาย เพื่อให้แข็งแรงถาวรในปี 2538 และยังได้ต่อระบบประปาไปถึงหมู่บ้านนาคำที่ห่างจากวัดไป 4 กม. ให้ชาวบ้านมีแหล่งน้ำสะอาดใช้
องค์พระมหาเจดีย์ที่วัดแห่งนี้ เป็น 1 ใน โครงการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542 และได้อัญเชิญตราสัญลักษณ์ และรูปหล่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาประดิษฐานภายในองค์พระมหาเจดีย์
วัดป่าภูก้อนในปัจจุบัน
ปัจจุบัน วัดป่าภูก้อนดำรงค์อยู่ด้วยความสมดุลของผ่าไม้ที่หวีความอุดมสมบูรณ์ทุกวัน จากบุคคลที่มีความศรัทธา และระลึกคุณของสรรพสิ่งของชาติ และแผ่นดินเป็นที่กำเนิดชีวิต มีพระพุทธศาสนาเป็นสำนึกก และมหากรุณาธิคูณที่ชาวไทยควรทดแทน ช่วยส่งเสริมให้พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีให้ดำรงปฏิปทาของพระป่ากรรมฐาน เพื่อบูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ให้คงอยู่
สำหรับวัดป่าภูก้อน ประวัติ ที่มาที่ไปนั้นถูกก่อตั้งมาอย่างยาวนาน เป็นวัดที่อยู่ท่ามกล่งธรรมชาติ เหมาะแก่การมาเที่ยว ชื่นชมบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติอย่างยิ่ง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูง และป่าน้ำโสม ในตำบลบ้านก้อง อยู่ใน รอยต่อแผ่นดินใน 3 จังหวัด นั่นคือ จังหวัดอุดรธานี เลย และหนองคาย หากมีโอกาสไม่ควรพลาดที่วัดแห่งนี้
